Customer Reviews

ซามูไรพเนจร เล่ม 01
4
โดย: ธนัช วันที่เขียนรีวิว: 20 กรกฏาคม พ.ศ. 2557

เรียกได้ว่าเป็นงานชิ้นมาสเตอร์พีซของอ.โนบุฮิโระ วาสึกิ เลยก็ว่าได้สำหรับมังงะแนวซามูไรเรื่องนี้ที่เป็นกระแสในหมู่นักอ่านบ้านเราได้อยู่พักใหญ่เลยทีเดียว เรื่องราวของมือสังหารบัตโตไซที่ปัจจุบันปิดบังตนเองในชื่อของคนจร ฮิมุระ เคนชิน แล้วเดินทางเร่ร่อนไปเรื่อยๆ พร้อมความตั้งใจที่จะเลิกสังหารผู้คนด้วยการพกดาบสลับคม (ดาบที่มีด้านคมอยู่ตรงสันดาบ) จนได้มาลงหลักปักฐานอยู่ที่โรงฝึกแห่งหนึ่งและไม่ว่าตัวเขาจะเต็มใจหรือไม่แต่ในที่สุดเขาก็ได้ถูกดึงกลับไปสู่วังวนแห่งการต่อสู้อีกครั้ง

เป็นมังงะแนวซามูไรที่เหนือจริงในแง่ของวิชาดาบและตัวละครบางตัว แต่อย่างอื่นๆ ก็พยายามจะอิงกับความเป็นจริงให้มากที่สุด ด้วยลายเส้นที่สวยงามและคาแรกเตอร์ดีไซน์ตัวละครหลายตัวค่อนข้างจะโดนใจผู้อ่านสาวๆ ก็เลยทำให้เรื่องนี้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื้อหาช่วงแรกก็ออกจะเอื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่เมื่อเริ่มเข้าเนื้อเรื่องที่จะต้องต่อสู้กับตัวละครที่ร้ายเต็มขั้นอย่าง ชิชิโอ มาโกโตะ (ตัวละครนี้ผู้รีวิวชื่นชอบมากตรรกะความคิดบางอย่างค่อนข้างขัดกับสามัญสำนึกแต่ก็จริงแท้และเท่อย่างแรง) ความเข้มข้นในเรื่องก็เพิ่มขึ้นมาจนวางหนังสือไม่ลงเลยทีเดียว เคล็ดวิชาบางอย่างในเรื่องก็ทำให้เด็กๆ ที่ได้อ่านเรื่องนี้ก็เผลอเชื่อกันไปจริงๆ ว่าสามารถฝึกฝนให้ใช้ได้จริงซะด้วย

เนื้อหาของเรื่องช่วงที่เน้นดราม่าจากอดีตของตัวละครก็ทำได้สะเทือนใจได้ระดับหนึ่ง และสามารถใช้โยงเรื่องจากอดีตถึงปัจจุบันได้อย่างเรียบเนียนไม่มีสะดุด ได้ยินมาว่าเนื้อหาที่นำเสนอช่วงบั้นปลายชีวิตของตัวเอกอย่าง ฮิมุระ เคนชิน ก็ดราม่าเรียกน้ำตาอย่างมาก เสียแค่ไม่ได้เป็นรูปแบบของหนังสือแต่เป็นอนิเมชั่น เลยไม่ค่อยแน่ใจนักว่าจะยึดเป็นเนื้อหาแท้ๆ จากผู้เขียนได้หรือไม่

ความสนุกของเรื่องนี้จัดได้ว่าสนุกมากทีเดียว แต่ช่วงหลังๆ ก็เหมือนจะแผ่วๆ ลงไปบ้าง เรื่องความฮาของเรื่องนี่ไม่ค่อยมีอะไรให้ฮาเท่าไหร่ น่าจะเป็นจุดอ่อนของผู้เขียนเรื่องนี้ก็ได้เพราะเรื่องที่เขียนทีหลังอย่างนักรบเหล็กเทวะที่พยายามยัดแก๊กลงไปเยอะๆ แต่จากที่อ่านๆ ดูก็ไม่ได้ขำเท่าไหร่ (หรือเส้นแก๊กของเรื่องกับผู้รีวิวไม่ตรงกันก็ไม่รู้) มุกที่เด้ดที่สุดของเรื่องคือการสร้างตัวละครที่เก่งมาก เก่งแบบไม่เกรงใจใคร อย่างอาจารย์ของตัวเอกออกมา แล้วตัดบทออกไปเลยเนื่องจากกลัวสมดุลของเรื่องเสีย ซึ่งผู้เขียนก็บอกผ่านตัวละครดังกล่าวในเรื่องไปแล้วว่าจะไม่ลงมืออะไรมาก เดี๋ยวคนอื่นไม่มีบท (ฮา)

การหยิบตัวละครที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ช่วยเสริมความน่าสนใจของเรื่องได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะการโยงเรื่องราวเข้ากับยุคสมัยจริงๆ ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นก็ช่วยเพิ่มความสมจริงของเรื่องเพิ่มมากกว่าเดิม ซึ่งทำให้เกิดคำถามเวลาที่อ่านว่าเหตุการณ์ไหนจริงบ้างไม่จริงบ้าง ซึ่งหากเป็นตัวละครสมมติทั้งหมดอาจจะไม่ทำให้เกิดคำถามเหล่านี้ก็ได้

หักออก 1 ดาวเพราะช่วงท้าบของเรื่องผู้รีวิวไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่
I HATE MY JOB
4
โดย: ธนัช วันที่เขียนรีวิว: 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เป็นผลงานรวมเล่มของตัวเองเพียวๆ ของนักวาดการ์ตูนแก๊กเลือดใหม่ที่โตมาจากการเป็นบล็อกเกอร์วาดการ์ตูนแก๊กสั้นๆ ลงบล็อกของตัวเองที่เว็บไซท์ exteen จนได้เข้าไปร่วมแจมในหนังสือเล่มต่างๆ ทั้งของ a book และบรรลือสาส์น ทำหนังสือทำมือของตัวเองออกมาบ้างและในที่สุดก็ได้มีรวมเล่มอย่างเป็นทางการของตัวเองจนได้

ในเล่มนี้จะเป็นการเล่าเรื่องของกลุ่มคนในอาชีพต่างๆ ว่าในงานที่ตัวเองทำอยู่ทุกวี่วันนั้นมีอะไรที่มันน่าเบื่อหรือเสื่อมจนเซ็งจิตจนอยากปลีกวิเวกออกจากงานที่ทำอยู่บ้าง และบัฟโฟ่ก็สามารถเขียนเรื่องราวเหล่านี้ออกมาได้กลมกล่อมมีรสชาติที่พอดิบพอดี ไม่ได้แรงเกินไป ไม่ได้จืดชืดจนเกินไป และถึงแม้ว่าธีมของเล่มจะเป็นการนำจุดเสื่อม จุดเซ็งของสายงานอาชีพต่างๆ มาจิกกัด เหน็บแนมแต่จากที่เป็นการนำเสนอในรูปแบบของการ์ตูนแก๊ก อารมณ์ของหนังสือจึงอยู่ในอารมณ์ที่สบายๆ ขำๆ ไม่ได้เครียดอะไรอย่างที่ชื่อหนังสือชวนให้รู้สึกเครียดจากคำว่า I HATE MY JOB เลย และในบางมุกตลก หรือในบางความเห็นหลังการ์ตูนจบก็แฝงเอาไว้ด้วยความเสื่อมอันเป็นความจริงที่เลี่ยงไม่ได้จากสายงานอาชีพต่างๆ ให้ชวนสะดุ้งหรือสะอึกเล็กๆ จากคนที่เคยประสบพบเจอสิ่งเหล่านี้ในงานของตัวเองว่า "เออ มันเป็นอย่างนี้จริงๆ ด้วยสินะ" จนต้องยิ้มมุมปากออกมาเพราะมุกมันแทงใจดำจนจี๊ดเข้าไปในอก

และหากมองในมุมกลับกันบ้างในความจริงที่ว่าหากไม่ได้มาพูดกันในลักษณะของการ์ตูนที่ขายความตลกขบขันแล้ว บางประเด็นก็ไม่ได้ดูไร้สาระเหมือนที่ภาพลักษณ์การ์ตูนของบัฟโฟ่นำเสนอออกมาเลย แต่กลับเป็นการสะท้อนอะไรบางอย่างที่น่าคิดตาม แม้ว่าบางครั้งอาจจะดูน่าเศร้า สิ้นหวัง หรือทำให้ไฟในการทำงานมันมอดไหม้กันไปเลยทีเดียว เช่น ทำงานแทบตายแต่ไม่มีใครเห็นคุณค่างานของงานที่ทำ (จากแก๊กคนคิดสูตรขนมหลอกเด็ก, คนทำซูชิ ฯลฯ) หรือประเด็นเรื่องสายงานที่ตัวเองทำสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ แต่กลับล้มเหลวในชีวิตตัวเองด้วยเรื่องเดียวกัน (จากแก๊กผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาครอบครัว) งานที่เริ่มทำด้วยอุดมการณ์แต่เวลาที่ทำจริงกลับต้องทำในสิ่งที่ขัดกับอุดมการณ์ของตัวเอง (จากแก๊กทนายความ) และแก๊กอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถหาอ่านได้จากภายในเล่ม ซึ่งมีเยอะจริงๆ อาชีพเล็กอาชีพน้อย หรืออาชีพที่มีแต่ในหนังในละครในนิทานหรือแม้แต่ในการ์ตูนหลอกเด็กก็ยังอุตส่าห์ไปแซวเค้าจนได้ นี่ยังไม่รวมสิ่งของต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันหรือสิ่งของในหนังอีกนะ ไม่รู้จะเยอะไปถึงไหนกัน

ด้วยความที่หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่สามารถอ่านได้ง่าย สบายๆ สามารถนำมาใช้อ่านเพื่อคลายเครียดได้ ก็เลยมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ที่หนังสือ I HATE MY JOB เล่มนี้ได้ติดชาร์ทหนังสือขายดีของทาง se-ed book อีกด้วย

www.batorastore.com © 2024